ดอกเบี้ยคงที่ กับ ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ต่างกันอย่างไร

เมื่อพูดถึงการกู้เงิน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อพ่อค้าแม่ค้า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้กู้ควรเข้าใจให้ถ่องแท้คือ ประเภทของดอกเบี้ย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อจำนวนเงินที่ต้องชำระคืนตลอดสัญญาการกู้ โดยปกติ ดอกเบี้ยที่ใช้กันทั่วไปมีอยู่สองประเภท ได้แก่ ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Interest Rate) และ ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Interest Rate )

แม้ทั้งสองรูปแบบจะเป็นวิธีคิดดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ แต่กลับมีความแตกต่างอย่างมากในวิธีคำนวณ ส่งผลต่อภาระผ่อนชำระรายเดือนและจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด วันนี้ Thai Credit จะพามาทำความเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างดอกเบี้ยสองประเภทนี้กัน

ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Interest Rate)

ดอกเบี้ยคงที่ คืออะไร ? 

ดอกเบี้ยคงที่เป็นอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาสัญญากู้ โดยดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากเงินต้นที่ขอสินเชื่อ และหารกับจำนวนงวดที่ต้องจ่าย จึงทำให้ผู้กู้จะต้องชำระเงินต้น และดอกเบี้ยเป็นจำนวนเท่ากันทุกงวดตามสัญญากู้ที่ได้ตกลงไว้

ข้อดีของดอกเบี้ยคงที่

1. ยอดชำระแต่ละงวดคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง
2. วางแผนงบประมาณรายเดือนได้ง่ายขึ้น
3. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแน่นอนทางการเงิน  
4. เหมาะกับผู้ที่ต้องการผ่อนจ่าย ไม่รีบปิดยอด

ข้อจำกัดของดอกเบี้ยคงที่

1. กรณีที่คุณมีเงินก้อนเข้ามา และต้องการปิดบัญชีก่อนกำหนด คุณอาจยังต้องเสียดอกเบี้ยในสัดส่วนที่สูงอยู่ (ประมาณ 50% ของดอกเบี้ยทั้งหมด)  
2. ไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ แม้จะชำระเงินต้นก่อนกำหนด

ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Interest Rate)

ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก คืออะไร ?

ดอกเบี้ยประเภทนี้ ดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไปตามจำนวนเงินต้นที่ผู้ขอสินเชื่อได้ชำระในแต่ละงวด โดยคำนวณจากยอดเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด ซึ่งหมายความว่าเมื่อคุณชำระเงินต้นไปเรื่อย ๆ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนก็จะลดลงตามไปด้วย เพราะถูกหักจากการชำระเงินเกินค่างวดไปแล้ว

ข้อดีของดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

1. ยอดดอกเบี้ยลดลงตามการชำระเงินต้น

2. ถ้าชำระเงินมากกว่าค่างวด จะช่วยลดดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่าย

3. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว

4. เหมาะสำหรับคนที่มีกำลังจ่ายมากพอ และอยากปิดหนี้ไวขึ้น

ข้อจำกัดของดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

1. งวดแรก ๆ ต้องจ่ายเงินมากกว่าแบบดอกเบี้ยแบบคงที่

2. ยอดชำระไม่คงที่ในแต่ละเดือน อาจทำให้การบริหารเงินยากขึ้น

ดอกเบี้ยคงที่ vs ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก แบบไหนดีกว่ากัน ?

มาเปรียบเทียบระหว่างดอกเบี้ยคงที่ และดอกเบี้ยลดต้นลดดอก เพื่อทำความเข้าใจเรื่องความแตกต่าง และเห็นภาพได้ง่ายขึ้น เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการของเรากัน  

ยอดชำระรายเดือน

ดอกเบี้ยคงที่ : ยอดชำระรายเดือนจะคงที่ตลอดระยะเวลาการกู้ยืม เนื่องจากดอกเบี้ยถูกคำนวณจากเงินต้นเต็มจำนวนและเฉลี่ยเป็นยอดชำระเท่า ๆ กันในแต่ละงวด

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก : ยอดชำระรายเดือนจะลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากดอกเบี้ยถูกคำนวณจากเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด เมื่อชำระเงินต้นมากขึ้น ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะลดลง ทำให้ยอดชำระในงวดถัดไปลดลงตามไปด้วย

เหมาะสำหรับใคร

ดอกเบี้ยคงที่ : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแน่นอนในการวางแผนการเงิน เนื่องจากยอดชำระรายเดือนคงที่ ทำให้ง่ายต่อการจัดการงบประมาณ

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจ่ายดอกเบี้ยรวมให้น้อยลง และมีความสามารถในการชำระเงินต้นมากขึ้นในแต่ละงวด เพื่อให้ยอดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายลดลงตามไปด้วย

เลือกดอกเบี้ยแบบไหนเหมาะสมที่สุด  

การเลือกประเภทของดอกเบี้ยให้เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้คุณบริหารภาระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการตัดสินใจควรพิจารณาจาก ระยะเวลาที่คุณวางแผนจะผ่อนชำระ

กรณีที่ต้องการกู้เงินระยะสั้น

หากคุณต้องการใช้เงินแบบเฉพาะกิจ และมั่นใจว่าสามารถหาเงินมาปิดบัญชีได้ภายในเวลาอันสั้น การเลือกดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะคุณสามารถลดดอกเบี้ยลงได้เรื่อย ๆ จากการจ่ายเงินต้นให้เร็วขึ้น ส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยโดยรวมลดลง

กรณีที่ต้องการผ่อนชำระระยะยาว

หากคุณต้องการผ่อนชำระแบบสบาย ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา ดอกเบี้ยคงที่ จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะยอดผ่อนคงที่ ทำให้สามารถบริหารจัดการรายจ่ายได้ง่ายกว่า
 

สรุป ดอกเบี้ยคงที่  คือค่างวดรายเดือนเท่ากันตลอดอายุสัญญา เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการชำระเงินแบบสม่ำเสมอ ส่วนดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก คือดอกเบี้ยถูกคำนวณจากเงินต้นที่ลดลง ทำให้ยอดชำระดอกเบี้ยลดลงเรื่อย ๆ เมื่อคุณจ่ายมากขึ้น การทำความเข้าใจเรื่องดอกเบี้ยคงที่ และ ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก จึงมีความสำคัญในการวางแผนการเงิน และเลือกสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ  ดูว่าสินเชื่อแบบไหนช่วยให้คุณประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว เพราะการเลือกโครงสร้างดอกเบี้ยที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณควบคุมค่าใช้จ่าย และบริหารภาระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

อ้างอิงข้อมูลจาก  https://www.bot.or.th/