เตรียมความพร้อมอย่างไร เมื่อมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

เมื่อความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า... ว่าวันพรุ่งนี้จะต้องเจอกับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ดังนั้น “ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด” คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน รถเสียกลางทาง หรือรายได้ที่หดหายกะทันหัน หากเราไม่มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้อาจกลายเป็นปัญหาทำให้การเงินสะดุด จนถึงขั้นดึงเงินเก็บออกมาใช้จนหมด หรือกู้หนี้ยืมสินจนเป็นปัญหาใหญ่ระยะยาวได้
ในบทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้วิธีรับมือกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดอย่างมีระบบมากขึ้น ด้วยการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งเผยเคล็ดลับสำคัญในการบริหารเงิน เพื่อเปลี่ยนความเสี่ยงให้กลายเป็นโอกาส นำชีวิตไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในระยาว
เริ่มจาก 5 ขั้นตอนการวางแผนทางการเงินที่ดี เพื่อการเงินที่มั่นคงในอนาคต ที่ใครก็สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ หากทำตามนี้หมดทุกข้อ ดังนี้

1. ประเมินฐานะการเงินของตนเอง
เพราะการประเมินฐานะการเงิน ไม่ใช่แค่การเช็กว่า “มีเงินพอหรือยัง” แต่เป็นการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับสถานะของคุณ เพื่อมองเห็นจุดรั่วไหลของเงิน และทำให้คุณตัดสินใจได้ว่า ควรลดรายจ่ายหรือเพิ่มรายได้ หรือวางแผนเก็บเงินสำรองฉุกเฉินได้เหมาะสม
โดยเริ่มจากการคำนวณ “เงินคงเหลือสุทธิ”
สูตรง่าย ๆ คือ รายได้ทั้งหมด – รายจ่ายทั้งหมด = เงินคงเหลือ
หากคำนวณเงินคงเหลือสุทธิออกมาแล้วพบว่า มีเงินเหลือในแต่ละเดือน แสดงว่าคุณมีโอกาสสร้างเงินออม แต่หากเงินติดลบ แสดงว่าคุณต้องเริ่มหาทางปรับพฤติกรรมทางการเงินทันที
เคล็ดลับสำคัญ: อย่าลืมทำสรุปรายรับ รายจ่าย และเงินออม ทั้งหมดเพื่อคำนวณ เงินเหลือใช้/ เงินขาดมือ
รายได้ทั้งหมด ได้แก่ รายได้หลักจากงานประจำ รายได้เสริม โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง
อย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อเห็นภาพรวมรายได้ที่มั่นคง และต่อเนื่อง
รายจ่ายทั้งหมด แยกประเภทให้ชัดเจน เช่น
รายจ่ายจำเป็น: ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร
รายจ่ายไม่จำเป็น: ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ค่ากาแฟ แบรนด์เนม
หนี้สิน: บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ค่าผ่อนรถ/บ้าน
เงินออม คือ เงินจากรายได้ที่ถูกกันไว้ก่อนล่วงหน้าเสมอ เช่น ออมเพื่อใช้ในอนาคต ออมสำรองฉุกเฉิน ออมเพื่อเป้าหมาย เช่น ซื้อบ้าน เที่ยว ฯลฯ
เมื่อได้รายละเอียดทั้งหมดแล้วนำมาคำนวณ ตามสูตรดังนี้ รายรับ - เงินออม - รายจ่าย = เงินเหลือใช้/ เงินขาดมือ
โดยการบันทึกรายรับ รายจ่ายทั้งหมด และเงินออม เพื่อจะได้รู้พฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง และมองเห็นภาพการใช้จ่ายของตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คุณมีเงินเหลือใช้ (ไม่ใช่ขาดมือ) และพร้อมรับมือกับรายจ่ายไม่คาดคิดในอนาคต
2. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อเดินสู่ความมั่นคง
เมื่อคุณรู้แล้วว่าฐานะการเงินของคุณอยู่ตรงไหน ขั้นตอนถัดไปที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน มีทิศทาง และสามารถวัดผลความสำเร็จได้จริง โดยเป้าหมายทางการเงินที่ดี ควรเป็นเป้าหมายที่ ระบุชัดเจนว่าเป็นอะไร ใช้ทำอะไร และต้องใช้เงินเท่าไหร่ เพราะ เป้าหมายที่ชัดเจน = แรงจูงใจที่ทรงพลัง
โดยสามารถใช้หลัก SMART Goals เพื่อทำให้เป้าหมายจับต้องได้มากขึ้น
ตัวอย่างเช่น คุณมีเป้าหมาย: ออมเงิน 60,000 บาท ภายใน 12 เดือน
- (Specific) ชัดเจน ไม่คลุมเครือ : ออมเงินสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน
- (Measurable) วัดผลเป็นตัวเลขได้ชัดเจน : 60,000 บาท
- (Achievable) ทำได้จริง : เดือนละ 5,000 บาท
- (Realistic) สอดคล้องกับพื้นฐานความเป็นจริง : ป้องกันวิกฤตทางการเงิน
- (Time-bound) มีกรอบเวลาที่ชัดเจน : ภายใน 1 ปี
3. จัดแผนการเงินที่ปฏิบัติได้จริง
การวางแผนการเงินที่ดีจะช่วยให้คุณรู้ว่า ควรใช้จ่ายเท่าไร ต้องออมอย่างไร จะเพิ่มรายได้จากที่ไหน จะลงทุนช่องทางไหนบ้าง เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ ภายในระยะเวลาที่กำหนด และทำให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างยืดหยุ่น และสอดคล้องกับชีวิตจริง โดยไม่กดดันมากเกินไป
4. ดำเนินการตามแผนอย่างเคร่งครัด คือกุญแจสู่เป้าหมาย
เพราะการวางแผนทางการเงินจะไม่มีความหมายเลย หากคุณไม่ลงมือทำอย่างจริงจัง เป้าหมายที่ชัดเจน แผนการที่วางมาอย่างดี อาจพังลงได้เพราะ “ขาดวินัยและความต่อเนื่อง” สิ่งที่สำคัญที่สุดจึงไม่ใช่แค่การ “มีแผน” แต่คือการ “ลงมือทำตามแผนอย่างสม่ำเสมอ” โดยสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ควรออมให้ได้ตามเป้าทุกเดือนไม่ว่าเงินจะมากหรือน้อยแค่ไหน
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้หลุดแผน
- รีเช็กแผนการเงินเป็นประจำ เพื่อปรับแผนหากมีรายได้/รายจ่ายเปลี่ยนไป
- เสริมกำลังใจด้วย “รางวัลเล็ก ๆ” ทำให้ไม่หลุดจากแผนใหญ่
5. วางแผนการเงินที่ยืดหยุ่น พร้อมรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง
แผนการเงินที่ดี ไม่ใช่แค่ “เป๊ะ” แต่ต้อง “ปรับได้” เพราะชีวิตจริงเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็น รายได้ที่ขึ้นหรือลดลง ค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้น ภาระที่เพิ่มเข้ามาโดยไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมบ้าน ค่าดาวน์รถ หรือแม้แต่โอกาสใหม่ ๆ เช่น รายได้เสริม หรือโบนัสพิเศษ
ดังนั้น ควรหมั่นตรวจสอบแผนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับให้แผนการเงินยังคงเหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ในชีวิตที่เปลี่ยนไป
เคล็ดลับเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอนที่ใคร ๆ ก็ทำได้
- มีเงินออมฉุกเฉินไว้ก่อนเสมอ
เงินออมฉุกเฉินคือ “กันชนทางการเงิน” ที่จะช่วยพยุงคุณไม่ให้ล้ม เมื่อเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด ดังนั้น ควรมีเงินออมฉุกเฉินอย่างน้อย 3–6 เท่าของรายจ่ายจำเป็นต่อเดือน รวมถึงภาระหนี้ทั้งหมด
- ตรวจสอบสวัสดิการ และประกันสุขภาพ
ค่ารักษาพยาบาลคือหนึ่งใน “ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน” ที่มักเกิดโดยไม่ทันตั้งตัว และอาจกระทบแผนการเงินทั้งหมดได้ ควรตรวจสอบว่าสวัสดิการที่มี เช่น ประกันจากนายจ้าง สิทธิประกันสังคม สิทธิบัตรทอง หากไม่ครอบคลุมควรพิจารณาซื้อ ประกันสุขภาพหรือประกันโรคร้ายแรงเพิ่มเติม เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงในระยะยาว
- คิดให้รอบคอบก่อนกู้ยืมเงิน
เพราะรายได้ในอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน จึงไม่ควรก่อหนี้โดยไม่จำเป็นก่อนตัดสินใจกู้ ควรประเมินว่า มีความสามารถในการชำระหนี้ต่อเดือนหรือไม่ ถ้ารายได้ลดลงยังผ่อนได้อยู่หรือไม่ และหลีกเลี่ยงการกู้หนี้เพื่อบริโภค หรือเพราะ “อารมณ์ชั่ววูบ” เช่น ซื้อของแบรนด์เนมหรูหราเกินตัว
- หารายได้เสริม หรือใช้ทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์
มองหาแหล่งรายได้เสริม หรือใช้ทักษะหรือทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ เช่น ปล่อยเช่าบ้าน คอนโด หรืออุปกรณ์ ขายของออนไลน์ รับจ้างฟรีแลนซ์ เพราะการมี “รายได้หลายทาง” จะช่วยลดความเสี่ยง และรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ดียิ่งขึ้น
สรุปบทความ
ชีวิตไม่เคยเป็นไปตามแผน 100% แม้คุณจะวางแผนการเงินไว้อย่างรอบคอบและมีวินัยแค่ไหน สิ่งสำคัญคือการเตรียมรับมือกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ จึงเป็นอีกหนึ่งหัวใจของความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
ดังนั้น ความมั่นคงทางการเงินที่ยั่งยืน เริ่มต้นที่ “คุณ” โดยเริ่มง่าย ๆ จากการประเมินฐานะการเงินของตนเองดูให้ชัดว่า รายรับ รายจ่าย และเงินออมของคุณอยู่ในระดับที่ “พอดี” หรือ “น่าเป็นห่วง” แค่ไหน ตั้งเป้าหมายทางการเงิน พร้อมจัดทำแผนการเงินที่สอดคล้องกับความเป็นจริง ยืดหยุ่น พร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง และสุดท้าย จงลงมือทำตามแผนนั้นอย่างเคร่งครัด เพราะอย่าลืมว่า ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่แผนที่สวยงาม แต่อยู่ที่ความมีวินัยเล็ก ๆ ในแต่ละวัน
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.bot.or.th/th/satang-story/money-plan/planning-steps.html
Recent Posts
View All-
26 มิถุนายน 2568รายได้ลดลง จัดการเงินยังไงดี
-
26 มิถุนายน 2568จากลูกค้าใหม่ กลายเป็นลูกค้าประจำ ด้วย 5 เทคนิคมัดใจลูกค้า ให้กลับมาซื้อซ้ำ
-
26 มิถุนายน 2568เป็นหนี้อย่างไร ไม่ให้มีปัญหากวนใจทีหลัง
-
26 มิถุนายน 2568แยกเงินส่วนตัว กับ เงินธุรกิจให้ชัดเจน กุญแจสำคัญสู่ความมั่งคั่งที่พ่อค้าแม่ค้าไม่ควรมองข้าม